Tokyo

6/24/2557

เที่ยวโอไดบะ โตเกียว Odaiba Tokyo ใน 1 วัน

วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้วสำหรับทริปญี่ปุ่น 5 วันที่ผ่านมาเราไปเที่ยว เดินกันมาเยอะมากตั้งแต่โตเกียว โอซาก้า เกียวโต นารา และวันนี้เราเดินทางจากโอซาก้ากลับมาที่โตเกียว วันนี้จึงขอเที่ยวแบบเบาๆ ในโตเกียว เมืองที่เราจะไปเป็นเมืองใหม่ของโตเกียว ชื่อว่า Odaiba (โอไดบะ)
Odaiba เป็นแหล่งชอปปิ้งและความบันเทิงของโตเกียว ถ้าดูจากแผนที่แล้ว Odaiba มีสภาพเป็นเกาะอยู่ที่อ่าวโตเกียว ในสมัยเอโดะ ค.ศ.1603-1868 เกาะ Odaiba ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ (คำว่า daiba แปลว่าป้อมปราการ) ป้องกันการรุกรานของข้าศึก
ต่อมาอีก 100 กว่าปี เกาะ Odaiba ได้ถูกถมเพิ่มเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ตึก สำนักงาน และ ท่าเรือ การถมทะเลในตอนนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในวงการก่อสร้างมาก ในปี ค.ศ. 1990 มีโรงแรม และศูนย์การค้ามาเปิดที่ Odaiba และเริ่มมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นตึก Fuji TV Building, Telecom Center และ Tokyo Big Sight ตอนนี้ Odaiba เป็นเมืองใหม่ของโตเกียว มีผังเมืองสวยงาม ตึกรูปทรงแปลกๆ รถไม่เยอะเหมือนโตเกียว และไม่วุ่นวาย
การมาเที่ยวใน Odaiba ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เพียงพอแล้วครับ พื้นที่ของ Odaiba ไม่ใหญ่มาก
การเดินทางมายัง Odaiba
นั่งรถไฟมาลงที่ JR Shimbashi* แล้วเดินออกไปที่สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome
หมายเหตุ* JR Shimbashi ถ้าหาใน google map จะเจอแต่สถานี JR Shinbashi จริงๆ แล้วเป็นสถานีเดียวกัน แต่มีกฎของภาษาญี่ปุ่นว่า ตัวสะกด n เมื่อเจอกับ พยัญชนะ b จะออกเสียงเป็น m คำว่า “Shimbashi” เป็นคำที่ตรงกับคำอ่าน ส่วนคำว่า “Shinbashi” เป็นคำที่ตรงกับภาษาเขียน
รูปล่าง. สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome
การเดินทางใน Odaiba
มีรถไฟสาย Yurikamome วิ่งทั่ว Odaiba เป็นรถไฟของเอกชนไม่สามารถใช้ JR Pass ได้ ค่ารถไฟเริ่มต้นที่ 180 เยน สูงสุด 370 เยน สามารถซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ หรือชำระผ่านบัตร Suica หรือ Passmo ได้ นอกจากนั้นยังมี One day pass ของ รถไฟสาย Yurikamome จะขึ้น-ลงกี่เที่ยวก็ได้ใน 1 วัน ราคา 800 เยน
ขั้นตอนการซื้อ One day pass รถไฟสาย Yurikamome
1. กด English ที่มุมขวา – บน ของจอ
2. กดจำนวนคนที่ปุ่มด้านซ้าย
3. ใส่เงินลงไปตามจำนวนคน ผู้ใหญ่คนละ 800 เยน
4. กดปุ่มสีฟ้า ONE-DAY OPEN TICKET 800
5. รับบัตรพร้อมเงินทอน (ถ้ามี)
รูปล่าง. บัตร One day pass รถไฟสาย Yurikamome
การขึ้นรถไฟก็สอดบัตรที่ประตูทางเข้าสถานี และสอดอีกทีที่ประตูทางออกสถานี พร้อมกับเก็บบัตรคืน
รถไฟสาย Yurikamome เป็นรถไฟที่ไม่มีคนขับ เบาะที่นั่งจะเล็กนิดนึงเนื่องจากเป็นรถไฟระยะสั้น แนะนำว่าให้ขึ้นที่หัวขบวนแล้วยืนที่ด้านหน้าจะเห็นวิวสวย
สถานีแรกที่ลง Odaiba-kaihinkoen สถานีนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่นสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge), Odaiba Seaside Park, อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง (Statue of Liberty), ห้าง Decks Tokyo beach, ห้าง Aqua City Odaiba ชายหาด Odaiba และยังสามารถเดินทะลุไปยังห้าง Diver City, Palette Town และ ห้าง Venus Fort
เรียกได้ว่า Odaiba-kaihinkoen สถานีเดียว เที่ยวได้ทั้ง Odaiba
ลงจากรถไฟเดินเลียบชายหาดเพื่อมาถ่ายรูปกับสะพานสายรุ้ง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเกาะโอไดบะเลยก็ว่าได้ ถนนบนเกาะ Odaiba โล่งมากแทบไม่มีรถวิ่งเลย บรรยากาศในเมืองนี้แตกต่างกับโตเกียวลิบลับ อากาศดีเพราะอยู่ติดทะเล ถ้าใครต้องการหนีความวุ่นวายในโตเกียวแนะนำให้มาเดินเล่นที่นี่เลยครับ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองเวลาออกเดทก็นิยมมาที่นี่กัน
ต้นไม้ริมถนนเป็นต้นซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว และกำลังร่วง คาดว่าในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน คงจะออกดอกสวยงาม
สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) เหตุที่ชื่อสะพานสายรุ้งมาจากตอนกลางคืนวิวที่สะพานจะเห็นแสงสีมากมายจากฝั่งโตเกียวเปรียบเสมือนสีของรุ้งที่มีหลากสี นอกจากนั้นเรายังสามารถมองเห็น Tokyo Tower จากจุดนี้ได้
ถ้าเดินเลียบชายหาดไปยังทิศตะวันตกก็จะเจอกับท่าเรือ Water bus (Odaiba-kaihinkoen) ให้บริการโดยเรือหลังคากระจกลำนี้ หน้าตาทันสมัยมาก สำหรับผู้ที่ต้องการนั่งเรื่อเล่น เราสามารถนั่งเรือไปลงที่ Asakusa ได้ในราคา 1,520 เยน ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที
บริเวณนี้มีนกนางนวลหนีหนาวมาอาศัยอยู่ด้วย มีอาหารนกขาย แต่ปริมาณนกยังเยอะสู้บางปูบ้านเราไม่ได้ครับ
ท่าเรือ Water bus (Odaiba-kaihinkoen) บริเวณนี้มีห้องน้ำ ร้านอาหารและร้านขายของเล็กๆ
มาถึงทะเลแล้วขอเดินชมทะเลญี่ปุ่นหน่อย ทะเลบ้านเค้าทรายไม่สวย เป็นทรายปนเลนสีดำ แต่มีดีที่สะอาด ดูน้ำทะเลเหมือนดำแต่จริงๆ แล้วไม่ดำนะครับ แต่ทรายเป็นสีดำ
ชายหาดสะอาดมากๆ ไม่มีขยะซักชิ้น คนเงียบๆ คนน้อยแบบนี้ ก็ยังมีคนมาเดินเก็บขยะที่ชายหาด
แม่พาลูกมาเล่นทราย
เล่นเรือใบ
ในรูปบนเป็นต้นซากุระใบกำลังจะร่วง ส่วนด้านหลังเป็นห้าง Aqua City Odaiba
ถ้าเดินขึ้น Sky walk มาเรื่อยๆ จะเจอกับอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง (Statue of Liberty) ส่วนของจริงนั้นอยู่ที่นิวยอร์ค ประเทศอเมริกา
Statue of Liberty
วิวตรงนี้สวยสุดอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลองฉากหลังเป็นสะพานสายรุ้ง ช่วงเวลาที่สวยที่สุดจะเป็นช่วงเวลาเย็นเกือบมืดจะเห็นไฟที่สะพาน และบ้านเรือนฝั่งโตเกียวเป็นไฟระยิบระยับ
นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่นี่
ห้าง Aqua City Odaiba
จากตรงนี้จะมีทางเดิน Sky walk ไปยังห้าง Palette Town สถานี Aomi หรือถ้าขี้เกียจเดินก็นั่งรถไฟไป 4 สถานี แต่เดินไปก็ไม่ไกลนะครับ 5 นาทีได้ รถไฟมันวิ่งอ้อม
ผังเมือง Odaiba สุดยอดมาก สามารถเดินทะลุถึงกันได้หมด ทางเดินก็กว้างมาก
ห้าง Diver City Tokyo Plaza ห้างนี้มีสินค้า Brand name หลายยี่ห้อ เช่น Uniquo, H&M, Lacoste และร้านอาหารหลายร้าน ส่วนร้านที่ขึ้นชื่อก็มี Gundam Cafe เปิดมาเพื่อเอาใจคนรักกันดั้มโดยเฉพาะ ร้านนี้อยู่ด้านหลังหุ่นกันดั้ม
ที่หน้าห้างมีหุ่นกันดั้มขนาดเท่าของจริง สูง 18 เมตรตั้งอยู่ รายละเอียดสมจริงทุกสัดส่วน ใครที่ชอบสะสมโมเดลลองส่องดูได้ครับ ทำมาเนี๊ยบมาก หุ่นกันดั้มสามารถปล่อยควัน เปิดไฟที่ตัว หันหัวไปมาได้ แต่จะมีเวลาโชว์อยู่ ใครที่ต้องการไปดูกันดั้ม ต้องรีบไปดูนะครับ หุ่นตัวนี้ไม่ได้ตั้งถาวร ครบกำหนดแล้วก็จะไปโชว์ตัวที่อื่นต่อ
ทางเดินใน Odaiba กับแนวต้นแปะก๊วย ที่กำลังจะร่วง บางอารมณ์ก็รู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรปมากกว่าอยู่ในโตเกียว
ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel ในห้าง Palette Town
Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ความสูง 115 เมตร เคยเป็น 1 ในชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก เมื่ออยู่ในส่วนที่สูงที่สุดจะมองเห็นอ่าวโตเกียว และ เมืองโอไดบะทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ค่าบริการคนละ 900 เยน ระยะเวลา 16 นาที
ห้าง Venus Fort เป็นห้างที่ตกแต่งออกแนวยุโรป คล้ายกับเวเนเชี่ยน มาเก๊า มีท้องฟ้าจำลองที่เพดาน ในห้างประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 100 ร้าน เน้นสินค้าแฟชั่น บูติค ร้านอาหาร
ในประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร การแต่งตัวจะดูดีมีเกียรติไม่แพ้อาชีพอื่น อย่างในรูปบนผู้หญิงชุดแดงใส่หมวก ถ้าเห็นเดินในสนามบินคงคิดว่าเธอเป็นลูกเรือ แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นพนักงานทำความสะอาด ยูนิฟอร์มดูดีมาก ไม่ได้เฉพาะห้างนี้ครับ พนักงานตามสถานีรถไฟก็ใส่สูทผูกไทค์กัน
ลานน้ำพุห้าง Venus Fort ทำแนวยุโรป
วันที่ไปมีการจัดแสดงรถ Ferrari & Lamborghini เลยได้เห็นรถสวยๆ หลายคัน
Lamborghini สีเหลือง
Ferrari รุ่นเก่า หายาก
Ferrari ขนมาโชว์ทั้งตระกูล
ร้าน Kiddy Land สาขา Venus Fort Odaiba ขายตุ๊กตา Sanrio, San-x, Line มีให้เลือกเยอะมาก ร้าน Kiddy Land นอกจากสาขานี้แล้วก็ยังมีสาขาที่ Harajuku
จุดประสงค์หลักที่เข้าห้าง Venus Fort เพราะว่าอยากชมรถที่ History Garage ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์รถคลาสสิคในช่วงปี ค.ศ. 1950 – 1970 พิพิธภัณฑ์รถ History Garage ดูแลโดย Toyota เข้าชมได้ฟรีครับ
History Garage จะอยู่ที่ชั้น 1 และ 2 ของห้าง Venus Fort ชั้น 1 จะจัดแสดงรถคลาสสิคหลากหลายยี่ห้อ พร้อมบรรยากาศแบบจำลองในยุคนั้น
ทางเข้า History Garage
รถคลาสสิคหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่ละคันอยู่ในสภาพดีมาก เราสามารถเข้าไปดูได้อย่างใกล้ชิดแต่ห้ามจับ
มีใครเกิดทันเห็นรถพวกนี้วิ่งบนถนนบ้างครับ ของผมเคยเห็นบางคันนะ
นอกจากมีรถให้ชมแล้วยังมีหนังสือรถยี่ห้อต่างๆ ให้อ่านเหมือนเป็นห้องสมุดย่อมๆ เลย
หนังสือรถหลากหลายยี่ห้อ
บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุค 1980
ที่จอดในช่องแบบนี้จะเป็นรถหายากขึ้นมาหน่อย ที่ประเทศไทยถ้าอยากชมรถโบราณ คลาสสิคแบบนี้สามารถไปดูได้ที่เจษฎา เทคนิค มิวเซียม พิพิธภัณฑ์รถโบราณ มีรถให้ดูเยอะกว่านี้อีกครับ เข้าฟรีด้วย
บรรยากาศตึกเก่า
ชมที่ชั้น 2 เสร็จเดินลงไปที่ชั้น 1 ชั้นนี้มีชื่อว่า Grand Prix Garage
ชั้นนี้จะเน้นไปทางของแต่งรถ และโมเดลรถ
สำหรับคนชอบรถน่าจะชอบพิพิธภัณฑ์รถนี้นะครับ
ระหว่างชมห้างเจอแผ่นหิน Mouth of Truth จำลอง ส่วนแผ่นหินของจริงอยู่ที่กรุงโรม อิตาลี Mouth of Truth เป็นแผ่นหินที่มีหน้าคน ในสมัยก่อนใช้ในการพิสูจน์ว่าใครพูดโกหก พิสูจน์โดยเอามือใส่ในปากถ้ามือใครขาดแสดงว่าโกหก
ออกจาก Venus Fort ข้ามไปตึกข้างๆ Megaweb Toyota City Showcase ที่นี่เป็นโชว์รูม Toyota มีรถรุ่นใหม่ๆ นวัตกรรม ต้นแบบรถในอนาคตให้ได้ชมกัน เข้าชมได้ฟรีครับ มีอยู่ด้วยกัน 2 ชั้น ชั้น 2 จะเป็นรถที่ขายในปัจจุบัน ส่วนชั้นล่างเป็นพวกรถโชว์ รถในอนาคต รถแต่งลุย
Toyota Tacoma เป็นรถกระบะทรงใหญ่ ไม่มีขายที่บ้านเรา
Toyota Venza หน้าตาสวยดี ไม่มีขายที่บ้านเราเหมือนกัน เสียดายรถดีๆ หลายรุ่นที่ไม่ได้เข้ามาทำตลาดบ้านเรา
เครื่องเล่นนี้เป็นตัวจำลองการขับขี่ทดสอบการควบคุม พวงมาลัย เบรค คันเร่ง และระบบ Safety ในรถ เล่นได้ฟรีครับ
Toyota MarkX ทั้งสปอร์ตและหรูในคันเดียว
ลงไปที่ชั้นล่าง
รถ Mitsubishi รูปทรงคลาสสิค แต่สภาพดีมาก
รถยนต์จากค่าย Sim-drive รถยนต์ค่ายนี้จะเน้นไปที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ ส่วนมากจะเป็นรถไฟฟ้าครับ หน้าตาก็ดูล้ำดี โค้งมน ลดแรงเสียดทาน
รถต้นแบบ Sim – Drive
TOYOTA – FJ CRUISER พร้อมชุดแต่งรอบคัน
Ride One Station สำหรับคนที่ต้องการทดลองขับ
GoPro รูปร่างเหมือนรถสำรวจ
รถ Cocoa Mira จากบริษัท Daihatsu ยี่ห้อนี้เคยได้รับความนิยมมากในบ้านเรา แต่ปัจจุบันไม่ทำตลาดแล้ว เท่าที่สังเกตดูรถญี่ปุ่นในปัจจุบันออกแนวป้อมๆ เหลี่ยมๆ แบบนี้
รถการ์ตูน น่ารักมาก
426GT
รถสปอร์ตด้านล่างแปลงมาจาก Schuppan 962CR
ชมรถเสร็จ เดินเล่นต่อ ร้านนี้ชมพูคิตตี้ทั้งร้านเลย Hello Kitty Kawaii Paradise
เดินเล่นใน Odaiba ถึงเย็น ต้องกลับโตเกียวแล้วครับ เราจะนั่งรถไฟจากสถานี Aomi ไปยังสถานี Shimbashi
ถนนในเมือง Odaiba โล่งมาก
มาแล้วรถไฟ Yurikamome ไร้คนขับ
ภายในรถไฟ
ถึงสถานี Shimbashi แล้ว
ทริปเที่ยว Odaiba ใน 1 วันก็จบเพียงเท่านี้ครับ Odaiba เป็นเมืองใหม่ในโตเกียวที่เที่ยวง่าย แต่ควรมีเวลาในนี้อย่างน้อยซัก 4 ชั่วโมงถึงจะพอ
สถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจใน Odaiba
- Oedo-Onsen-Monogatari (สถานี Telecom Center) เป็นบ่อออนเซ็นสาธารณะขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมมากในโตเกียว ภายในทำบรรยากาศแบบย้อนยุคสมัยเอโดะ มีร้านอาหาร กิจกรรมคล้ายงานวัด สปา มีบ่อออนเซ็นแยกชาย-หญิง หลายแบบ บ่อเล็ก, บ่อใหญ่, บ่อรวม, บ่อกลางแจ้ง, บ่อแช่เท้า, บ่อน้ำนม, บ่อน้ำชา ฯลฯ ค่าบริการออนเซ็น 1,980 เยน และถ้าเข้าหลัง 18.00 น. ราคา  1480 เยน
- พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ด์ (สถานี Odaiba-kaihinkoen) อยู่ในห้าง Decks Tokyo beach พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วทั้งโลก สาขานี้เป็นแห่งแรกที่ญี่ปุ่น
- Tokyo Trick art museum พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติคล้าย Art in Paradise ที่บ้านเรา ด้านในเป็นรูปวาดแนวญี่ปุ่นแบบโบราณ อยู่ในห้าง Decks Tokyo beach ค่าเข้าผู้ใหญ่ 900 เยน เด็ก 600 เยน
- Museum of Maritime Science (สถานี Fune no kagakukan) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีรูปตึกเหมือนเรือขนาดใหญ่ ภายในมีนิทรรศการการเดินเรือ ขนส่งทางเรือ
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น 11 วัน
วันที่ 1 : เดินทางกรุงเทพฯ – โตเกียว นอนโตเกียว
วันที่ 3 : เที่ยวนารา นอนโอซาก้า
วันที่ 4 : เที่ยวเกียวโต นอนโอซาก้า
วันที่ 5 : เที่ยวเกียวโต นอนโอซาก้า
วันที่ 6 : นั่ง Shinkansen กลับโตเกียว เที่ยวโอไดบะ โตเกียว นอนโตเกียว นอนโรงแรมเดียวกันคืนที่ 1 เพราะฝากสัมภาระกับเค้าไว้
วันที่ 7 : เที่ยว Kawaguchiko ดูภูเขาไฟฟูจิ นอนโตเกียว
วันที่ 8 : เที่ยว Nikko นอนโตเกียว
วันที่ 9 : เที่ยว Mitake นอนโตเกียว
วันที่ 10 : เที่ยวโตเกียว ศาลเจ้าเมจิ ดูใบแปะก๊วยสีเหลือง Todai University วัดเซ็นโซจิ Asakusa นอนโตเกียว
วันที่ 11 : เที่ยวโตเกียว ชิบูย่า ฮาราจูกุ บินกลับไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น