Tokyo

10/24/2557

‘ข้อเสีย’ ของการไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น…

วันนี้ทีมงานเราเข้าไปเจอความเห็นของสมาชิกคนหนึ่งใน Postjung.com พูดถึงข้อเสียของการไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าประเทศนี้มีข้อเสียอะไรบ้าง เราลองมาดูกันเลยนะ
ขออนุญาตคัดลอกข้อความมาทั้งหมด เป็นคำพูดต้นฉบับดั้งเดิมเลยนะครับ….

bad-life-in-japan7

1. บางทีก็ใจแคบกันจัง นั่งรถมา มีคุณยายแก่ ๆ ขึ้นมาก็ต้องยืนรอจนมันว่างถึงจะได้นั่ง ไม่มีใครลุกให้นั่ง เห็นแล้วคิดถึงเมืองไทย…
2. ไม่ชอบตรงที่ ในรถไฟ เค้าไม่ลุกให้ คนแก่ ๆ เด็ก ๆ หญิง หรือคนแบกของเยอะ ๆ นั่งอ่ะ แล้วพอผมลุกให้นั่งทีไร ก็ชอบหันมามอง ชักหลัง ๆ เริ่มชินเลยหันไปมองคนมองตอบแล้วชูสองนิ้ว 5 5 5 นี่ล่ะคนไทยเฟร้ยยย
3. คนญี่ปุ่นจะบอกว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง กินจนเผ็ดปากแดงเหงื่อตก Karai desu ka? (เผ็ดเหรอครับ) Iie, Oishii desu ne (ไม่คะ อร่อยดีคะ) ทั้ง ๆ ที่เผ็ดแต่ก็รักษามารยาทมาก จะฉุนก็ฉุน จะสงสารก็สงสาร ไม่รู้จะว่าไงเลยครับ
4. ไม่ชอบคนมันระเบียบเวอร์ไป ถนนไม่มีรถสักคัน ดึก ๆ หนาว ๆ จะข้ามถนนมันก็ห้ามให้รอสัญญานไฟ กรูจะแข็งตายแล้วว
5. ไม่ชอบที่ให้สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ในรถ ขนาดมีเด็กนั่งก็ยังสูบ
6. ไม่ชอบ (ตัวเอง) เวลาอยู่ที่ญี่ปุ่น ทำไมไฟฟ้าสถิตย์มันแปร้บบบๆ ง่ายจริง ๆ เวลาเปิดประตูรถ ประตูบ้าน จะหวาดเสียวมาก ว่ามันจะ แปร้บ ๆ รึปล่าว ทุกวันนี้ ใช้ชายแขนเสื้อ เอามือซ่อนไว้ข้างใน แล้วใช้เปิดประตูค่ะ แขนเสื้อดำมาก ๆ
7. ไม่ชอบประโยคภาคบังคับ แบบ “ฮือ อร่อยจัง” “ไว้วันหลัง เรามาทำขนมนี้ด้วยกันนะ” “วันหลังมาเที่ยวบ้านฉันนะ” แบบที่เป็นความรู้สึกจริงๆ ก็มี แต่แบบพูดโดยมารยาท วันหลังที่ว่านั้น ไม่มีจริง ก็เยอะ ตอนมาญี่ปุ่นใหม่ ๆ แยกแยะไม่ออก นึกว่าเขาพูดจากใจจริง ตอนนี้เก่งขึ้นเริ่มแยกออกนิดหน่อย เลยรู้สึกว่า ประโยคแบบที่พูดไปงั้นเอง บางทีก็ทำให้เดาใจกันยากจัง
8. พริกหยวกสีแดง เหลือง แพง อยากกินสลัด ต้องตัดใจซื้อแบบครึ่งๆ 109 เยน แต่ก็ยังแพงงง
9. บรรดาผักทั้งหลาย หน้าหนาวโคตรแพง
10. นมถั่วเหลือง ก็แพง เมืองไทย 5 บาทเอง แถมเครื่องเพียบ

bad-life-in-japan

11. หน้าหนาวตัวคันคะเยอ เพราะผิวแห้ง
12. หน้าร้อน ร้อนมากก แต่ไอติมอร่อย
13. ค่าตั๋วหนังแพงจริงด้วย เกือบ 700 บาท ฮ่วย!!
14. ทางด่วนยิ่งแพง
15. หาที่จอดจักรยานตามสถานียาก เพราะถ้าไม่จ่ายแบบรายเดือนก็จะเจอใบเตือน
16. อาหารและขนมอร่อยทำให้กินจนอ้วน
17. หาที่กดน้ำตามชักโครกยาก ในกรณีไม่ได้เป็นแบบปุ่มโยกอ่ะค่ะ
18. ไม่ชอบเท่าไรเวลาข้ามถนนตามไฟเขียว แล้วต้องระวังรถอีกฝั่งที่จะเลี้ยวมาตอนเราข้ามได้
19. จอดรถซี๊ซั๊ว ตามที่จอดรถส่วนตัวของชาวบ้านไม่ได้อ่ะ แหะ ๆ
20. เมื่อแม่บ้านเจอหน้ากันเมื่อไหร่ เป็นต้องเม้าท์แตก ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ยูเป็นคนต่างชาติเหรอ ..ฟังเฉย ๆ แล้วกัน

bad-life-in-japan2

21. ตราบใดที่เราไม่เอ่ยปากถามอะไรเขาก็จะไม่หันมาคุยด้วย ถ้าเรารำคาญเรื่องที่เขาเม้าท์กัน ก็ต้องชวนคุยเรื่องละครเกาหลี ยิ่งพระเอก ของ ฟุยุโนะโซนาตะ (winter love song) ล่ะก็ ถูกใจแม่บ้านยิ่งนัก (ที่ญี่ปุ่นคลั่ง เป ยอง จุน หรือ ยงซะมะ กันมาก)
22. หน้าหนาวญี่ปุ่นทนได้ แต่หน้าร้อนนี่สุดๆๆ เหงื่อออกตลอดเวลา สิวขึ้นหลังเต็มไปหมดเลย เมืองไทยก็ร้อนแต่ไม่เคยเป็นแบบนี้
23. ไม่ชอบคนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยจะพูดอะไรตรงๆ ไม่ชอบระบบการทำงานแบบญี่ปุ่น ที่ต้องทำเป็นเคร่งเครียดตลอดเวลา แม้ว่าจะทำงานเสร็จแล้ว ก็ต้องทำเป็นยุ่งอะไรกันตลอด
24. สาวยุ่นบางนางน่ารักเกินไป
25. ไม่ชอบที่ข้าวขาหมูหากินยาก
26. หน้าร้อนโครตร้อน
27. หน้าหนาวโครตหนาว
28. แผ่นดินไหวบ่อย ๆ
29. น้ำในโอฟุโระ ลงแช่กันทั้งบ้าน (ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้)
30. เดี๋ยวมีคาฟุนโช อีก ตอนนี้เริ่มฮัดเช้ย ๆ ๆ ละ (** คุฟุนโช ภาษาไทยคือ ไข้ละอองฟาง (Allergic Rhintis) เป็นปฏิกิริยาต่อสารที่เป็นละอองในอากาศ เช่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา ซึ่งถูกสูดดมผ่านทางปากหรือจมูก ซึ่งทำให้มีอาการหายใจเสียงดัง คัดจมูก น้ำมูกไหล มีน้ำมูก น้ำลายมาก ตาแฉะ แสบร้อน คอแห้ง บางครั้งอาจจะมีเป็นช่วง ๆ ของฤดู สาเหตุเกิดจากเกสรดอกไม้ เชื้อรา เราจึงมักเรียกว่า ไข้ละอองฟาง คนญี่ปุ่นมักจะเป็นกันมากช่วงฤดูใบไม้ผลิค่ะ ไปใหนมาใหนจึงจะเห็นแต่คนใส่ผ้าปิดจมูกกัน เราก็เริ่มเป็นละตอนนี้ ออกนอกบ้านทีไร กลับเข้ามาจามฮั๊ดเช้ย ๆ ๆ ทุกที น้ำมูกใส ๆ เช็ดจนจมูกแดงเลย)

bad-life-in-japan3

31. มีแต่คนไม่ใส่เสื้อผ้า (ที่ออนเซ็น)
32. พาหมาไปเดินเล่นนอกบ้าน ถ้ามันเกิดอึ๊ขึ้นมา ต้องโกยอึ๊มันกลับบ้านด้วย….ยี้… (จะแกล้งทำหมกเม็ดเอาใบไม้มาปิดไว้ก็ไม่ได้ )
33. รถถูก แต่ค่าทางด่วนโครตแพง
34. กะเทียม (ญี่ปุ่น) หัวละ 198 เยน กรี๊ดดดด….ทำใจไม่ได้
35. เรื่องตะเกียบก้อโดน ดอกใหญ่ ตอนนั้นกำลังเม้าเต็มที่เรื่องสนุกด้วย กลับโดนเบรคจังๆว่า ห้ามพูดโดนถือตะเกียบอยู่ เสียมารยาทด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจของเขา ทำให้เราหมดอารมณ์ไปเลย
36. เรื่องตรงต่อเวลา นี่โดนหนักสุด แบบว่ามาสายกว่าที่นัดไว้ (จะไปกินข้าวกัน) แต่ระหว่างเดินทางก้อส่งเสจเสจไปบอกแล้ว เกินไปห้านาที พอเขา (สนิทกันตั้งแต่เมืองไทย จึงแสดงออกกันตรงๆ) เห็นหน้าเรา ก้อทำนิ่งเลย ไม่พูดจา ทำเย็นชา และไม่พูดกับเราเป็นอาทิตย์เลยละ เขาว่าที่นี่เรื่องเวลา การนัดหมาย พูดคำไหนต้องเปนคำนั้น จะสายเกินหนึ่งหรือสองนาที ก้อถือว่าคุณไม่รักษาคำพูดแล้ว บางคนถึงขนาดเลิกคบกันเพราะนัดแล้วไม่เคยมาทันเวลานัด เรานี่ก้อยอมรับว่ามันไม่ดี แต่มันรุนแรงมากเลยในสายตาเขา แต่ในบ้านเราแค่เกินสามนาทีห้านาที และส่งเมสเสจทางโทรแล้ว ก้อยอม ๆ กัน เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
37. ไม่ชอบความหนาวเลยเพราะไปใหนแต่ละทีต้องใส่เสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นแล้วก็หนา ๆ เวลาเข้าห้างทีต้องถอดแล้วถือเกะกะไปหมด
38. รักความเป็นส่วนตัวสุด ๆ ของส่วนตัวของใครก้อของ ๆ คนนั้น เช่น คอม เสื้อผ้า กล้อง เครื่องเล่นเพลงพกพา อย่าได้พยายามไปแตะเลยเดี๋ยวมีปัญหา ยกเว้นว่าเขาตั้งใจจะซื้อของมากินมาใช้ด้วยกันหรือให้ยืม ที่คบ ๆ มา เจอคนที่มีนิสัยมาแบ่งกันกินกันใช้แบบคนไทยน้อย และเขาแบ่งให้เรา เราก้อไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง
39. สังคมกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเป็นสังคมปิดพอสมควร สังคมสังกัดกลุ่ม มหาลัยเดียวกัน บริษัทเดียวกันอะไรทำนองนั้น และถึงจะเป็นกลุ่มสังกัดเดียวกันเข้าหาเขาบ่อยเพียงใด เขาก็ยังมองเราเป็นเพื่อนแบบไกโกกุจิน มากกว่าเพื่อนแบบนิฮองจิน สังเกตจากมารยาท ความรู้สึกที่คุยกับเรา บางครั้งนะ แบบชื่นชมโอเวอร์ ตื่นเต้นจนรู้สึกว่านี่แกจริงใจหรือแสร้งชมกันนะ แต่กับเพื่อนญี่ปุ่นนี่พูดกันคนละแบบ ซึ่งให้ความรู้สึก ความสนิทสนมในจิตใจต่างกับเพื่อนๆที่เมืองไทยเราพอสมควร
40. ประหยัดกันสุดฤทธิ์ คนที่นี้ (บางคน) ยอมกินราเมงทุกวัน อยู่ห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ แต่พอออกนอกบ้าน she จะใส่แต่ของแบรนแนม ตั้งแต่หัวจรดเท้า เราก็เลยเข้าใจแล้วว่า มันเอาตังค์ไปทำอะไร เชื่อเขาเลย

bad-life-in-japan5

41. เวลาทานข้าวบนโต๊ะอาหาร หากส่วนไหนที่ไม่ทาน จะคีบใส่จานของเขา ๆ (แฟน) จะพูดว่า Just leave it. เค้าว่าเสียมารยาทที่เราจะเที่ยวคีบของที่เราไม่กินไปใส่จานคนอื่น ….บ้านอื่นเป็นกันมั้ยคะ
42. เวลาเผลอตัว มือจับตะเกียบอยู่แล้วฝอยเรื่องอะไรอยู่ ก็จะทำมือทำไม้ (ทั้ง ๆ ที่ตะเกียบอยู่ในมือ) คนข้างตัวของดิฉันก็จะบอกว่า ให้วางตะเกียบให้เรียบร้อยเสียก่อน อย่าถือตะเกียบชี้ไปชี้มา มันอันตราย…บ้านอื่นเป็นมั้ยคะ
43. เวลาดิฉันเรียงจาน-ชามอาหาร ถ้วยซุปต้องอยู่ทางขวามือเสมอ หากเรียงผิด ก็คนข้างตัวเนี่ยแหล่ะ ที่ต้องมาพร่ำสอน ทั้ง ๆ พ่อแม่ไม่ว่าอะไรสักคำ บ่นมาก ๆ เข้าดิฉันก็บอกให้ช่วยหุบปากเหมือนกัน ฟังมากขี้หูไหลค่ะ….บ้านอื่นเป็นกันมั้ยคะ
44. ส่วนเรื่องของใช้ส่วนตัว หากแม่เห็นกางเกงในของดิฉันขาดกะรุ่งกะริ่ง แม่ก็จะรีบเอามาเย็บให้ แม่ว่าอย่าให้พ่อเห็นเชียวนะ…เดี๋ยวถูกเอ็ด เป็นลูกผู้หญิงใส่กางเกงในขาด ๆ ไม่งาม…บ้านอื่นเป็นกันมั้ยคะ
45. ไม่ชอบ ไปดูหนังก็แพง แม้จะมีเลดี้เดย์ก็เหอะ แต่ก็พันเยน หนังก็เข้าช้า หนังอินดี้หาดูตามโรงยาก ไม่มีลิโด้แบบบ้านเรา
46. ไม่ชอบ ตรงที่ ซื้อของในซุปป้า (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) แล้วต้องใส่ถุงเอง (ขี้เกียจ อิอิ)
47. ไม่ชอบ ตรงที่ ชอบชมว่า คาวาอี้ๆๆๆๆๆ ตอนเจอกันครั้งแรก รู้สึกเหมือนโดนโกหก ตอนแรกได้ยินก็ดีใจแต่ตอนหลังเห็นคนหน้าเห่ยมาก โดนชมว่าคาวาอี้ๆๆ ก็เลยรู้สึกว่า เค้าชมเราไปอย่างนั้นแหละ
48. ไม่ชอบ ความหนาวค่ะ มันหน๊าว หนาวจนรู้สึกโกรธแค้นว่าทำให้ต้องให้เรามาเจออะไรอย่างนี้ด้วย เมื่อไหร่มันจะจบสิ้น เสื้อโค้ทก็หน๊า หนา จนปวดหลัง ปีนึงสำหรับคนขี้หนาวอย่างเรา ตั้งแต่เดือนตุลา ถึง กุมภา ห้าเดือนก็เกือบครึ่งปีแล้ว
49. ไม่ชอบ ที่รถบัสไม่สะดวกเหมือนรถเมล์ไทย ถึงจะตรงเวลาก็เหอะ แต่ชั่วโมงนึงมีสอง สามคันงี้ แถมไม่เข้าถึงทุกซอกซอยทำให้ต้องเดินไกล ๆ จะนั่งแท็กซี่ก็แพง
50. เก็บความรู้สึกมากไปจน เรียกว่าเก็บกด

bad-life-in-japan4

51. ไม่ชอบ ที่เข้าไปร้านอาหาร อย่างน้อยก็ต้องสั่งอะไรสักอย่าง จะไปนั่งแจม ๆ กับเพื่อนอย่างเดียวไม่ได้ หรือเช่นไปกับเพื่อนสั่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ และก็เอาขนม หรือของกินไปกินในร้านก็ไม่ได้ ไม่รู้จะเข้มงวดอะไรกันนักหนา
52. ไม่ชอบตรงที่ ว่าเวลาไปบ้านคนญี่ปุ่นเนี่ย เราจะต้องอยู่ตรงนั้นที่เดียวตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่สนิทกันแล้ว เช่นบ้านพ่อแม่สามีก็เหมือนกันเราว่ามันอึดอัดนะ ถ้าบ้านคนไทยเนี่ยถ้าสนิทกันแล้ว เราสามารถเดินเล่นในบ้านได้แบบสนิทใจ จะนั้งท่าไหนนอนท่าไหนก็ได้ หรือจะนอนคุยกัน ทำไรกินกัน ไงก็ได้ แต่ที่นี่ ต้องนั่งเฉพาะที่รับแขกเท่านั้น เดินไปเดินมาก็ลำบาก ต้องทำตัวสงบนิ่ง อีกอย่าง
53. คนญี่ปุ่นเห่ออะไร ๆ ที่เป็นฝรั่งจังเลยเพื่อนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกัน ถ้าเป็นชาวตะวันตกจะได้รับความสนใจมาก จนน่าเบื่อค่ะ ทำไมต้องบ้าเห่อขนาดนั้น บางทีนักเรียนมาใหม่ที่เป็นฝรั่ง ก็มารุมคุยด้วย บางทีการสนทนาก็เป็นเรื่องดูออกว่าเห่อฝรั่ง ไปเที่ยวบ้านอาจาร์ยกับเพื่อนฝรั่ง เรื่องที่คุยก็ประมาณว่า ไวน์ประเทศนั้นประเทศนี้อร๊อย อร่อย ฉันชอบกินเสต็ก ฉันเคยไป ยุโรป อเมริกา ฉันชอบแอลเอ วันนี้คุยกันเรื่องซึนามิ ฝรั่งกะญี่ปุ่นคุยกันต่อหน้าเราว่า บ้านฉันบริจาคให้ไทยนะ ญี่ปุ่นก็พูดว่าเค้าบริจาคเยอะนะ คิดดูสิเราคนไทยนะมาพูดเรืองบริจาคต่อหน้าเรามันแม่ง ๆ นะ คนญี่ปุ่นเห็นฝรั่งเป็นพระเจ้ามั้ง
54. ไม่ชอบมากๆๆๆๆๆๆ เลยคือ คนที่นี่บางคนปากกับใจไม่ตรงกันค่ะ
55. คนญี่ปุ่นหลาย ๆ คนที่ไม่ชอบเอเชียประเทศอื่น ๆ มักจะยกตนข่มคนเอเชียอื่น ๆ อย่างรุนแรง ทั้ง ๆ ที่จริงไม่ได้ความภาษาอังกฤษยังพูดออกมาไม่ได้เลยแต่ชอบอวดเบ่ง
56. ปากเหม็นค่ะ ไม่รู้ทำไมคนชาตินี้หาวในรถไฟทีเหม็นกันเป็นไมล์ ๆ เลย สงสัยตอนเช้า ๆ รีบ ๆ มาทำงานไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน
57. สูบบุหรี่ในทุก ๆ ที่ แต่พยายามกินอาหารที่มีประโยชน์ทดแทนเผื่อไม่ตาย…..ไม่รู้เอาเอาอะไรคิดค่ะ เลิกสูบกันไปได้แล้วววววว ประเทศอื่น ๆ เค้าแอนตี้กันแล้วววววว
58. ไม่ชอบ ห้างปิดเร็ว สองทุ่มก็ปิดแล้ว
59. บางคนฟันเรียงกันเหมือนข้าวโพดคะ (เหมือนเฉพาะสีนะคะ) เวลาจุ๊บ ๆ ก็ เออ…
60. เวลาเราไปต่างประเทศ เพื่อนคนญี่ปุ่นถามเราว่าเธอพูดภาษาอังกฤษได้เหรอ เหอ ๆ งง เลยคะ เขาชอบคิดว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของเขาเลิศที่สุดน่ะคะ แต่พอคุยกับฝรั่งเราก็ต้องแปลให้อีกต่อทุกที .. ให้มันได้หยั่งงี้ซิ

bad-life-in-japan6

เป็นยังไงกันบ้างหลังจากได้อ่านกันทั้ง 60 ข้อ บางข้อจะว่าจริงก็จริง บางข้อก็ดูตลกๆขำๆ แต่บางข้อก็อาจจะดูมากเรื่องไปนิดนึง ทั้งนี้ทั้งนั้นรูปแบบชีวิตของแต่ละประเทศก็จะขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะฉะนั้นใครที่ไปอยู่ต่างแดนก็ต้องปรับตัวกันหน่อย
คนที่ปรับตัวได้เร็ว ก็จะสามารถอยู่และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข…. ใครมีเรื่องเล่าสนุกๆจากต่างแดนแบบนี้ ก็คอมเมนท์มาเล่าให้ฟังกันบ้างนะจ๊ะ…
ภาพจากเน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น